เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564 เวลา 9.00น.คุณดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นประธานในพิธีเปิดระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ณ บริษัท เอ็นเอ็มบี-มินีแบ ไทย จำกัด โรงงานบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผ่านระบบประชุมทางไกล
บริษัท มินีแบมิตซูมิ อิงค์ ได้ก่อตั้งขึ้นแห่งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2494 ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตตลับลูกปืนขนาดเล็ก (Miniature Ball Bearing) และได้ขยายกิจการโดยเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 จากการขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีของกลุ่มบริษัทมินีแบมิตซูมิ (ประเทศไทย) ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุด ปัจจุบันมีโรงงานผลิตรวม 9 แห่ง ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 5 แห่ง จังหวัดลพบุรี จำนวน 1 แห่ง จังหวัดปทุมธานี จำนวน 1 แห่ง จังหวัดชลบุรี จำนวน 1 แห่ง และจังหวัดระยอง จำนวน 1 แห่ง เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณแสนล้านบาท และมีพนักงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 39,000 คน โดย ได้รับการส่งเสริมการลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในกิจการผลิตชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนสำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์ เครื่องจักร หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนยานพาหนะและชิ้นส่วนสำหรับอากาศยาน
และนอกเหนือจากการพัฒนาผลิตสินค้าที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องแล้ว กลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ ยังให้ความสำคัญต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งในด้านสิ่งแวดล้อมกลุ่มบริษัทฯ ได้ดำเนินนโยบายภายใต้หลักปรัชญาการบริหารของบริษัท (Corporate Philosophy) และความมุ่งมั่น 5 ประการ (The Five Principle) โดยครอบคลุมทั้งการผลิต การพัฒนา ออกแบบผลิตภัณฑ์ การจัดหา และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รวมถึงการดำเนินมาตรการต่างๆ ในการป้องกันโลกร้อน (Preventing Global Warming)
จากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมดังกล่าว บริษัท เอ็นเอ็มบี-มินีแบ ไทย จำกัด จึงได้มีแผนในการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ประกอบกับทางรัฐบาลไทยได้มีนโยบายส่งเสริมการประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานทดแทน โดยผ่านมาตรการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ซึ่งจากนโยบายของรัฐบาลและของบริษัทฯ ที่สอดคล้องตรงกัน จึงถือเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัทฯ จำนวน 2 แห่ง คือ โรงงานบางปะอิน และโรงงานลพบุรี โดยมีรายละเอียดของโครงการ ดังนี้
1.โรงงานบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
มูลค่าการลงทุน จำนวน 112 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 3.12 เมกะวัตต์ ช่วยลดค่าไฟฟ้าต่อปีได้ประมาณ 10.4 ล้านบาท และปริมาณก๊าซเรือนกระจกต่อปี ที่คาดว่าจะลดได้ 2,438 ตันคาร์บอนด์ไดออกไซด์ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมีนาคม 2563 และก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนสิงหาคม 2563 และได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563
2.โรงงานลพบุรี จังหวัดลพบุรี
มูลค่าการลงทุน จำนวน 73.2 ล้านบาท กำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 1.88 เมกะวัตต์ ช่วยลดค่าไฟฟ้าต่อปีได้ประมาณ 6 ล้านบาท และปริมาณก๊าซเรือนกระจกต่อปี ที่คาดว่าจะลดได้ 1,470 ตันคาร์บอนด์ไดออกไซด์ โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนมีนาคม 2563 และก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนกรกฎาคม 2563 และได้รับอนุญาตจากจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563
การดำเนินโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งในการตอบสนองนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของกลุ่มบริษัทฯ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย ซึ่งการที่รัฐบาลและคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้มีนโยบายขยายมาตรการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่องต่อไปนั้น ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาการใช้พลังงานทดแทนของกลุ่มบริษัท ซึ่งจะได้นำไปใช้เป็นต้นแบบในการติดตั้งและพัฒนาสำหรับโรงงานอื่นๆ ของกลุ่มบริษัทฯ ในประเทศไทยต่อไป
อนึ่งกลุ่มบริษัท มินีแบมิตซูมิ ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และทุ่มเทให้กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลกอย่างยั่งยืน และฐานการผลิตในประเทศไทยจะยังคงเป็นฐานการผลิตหลักที่สำคัญ และมีแผนที่จะขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป
Tag :
SHARE :